Language for Early Child
เพื่อศึกษา,สืบค้น,แลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยและเป็นแนวทางในการปรับปรุงข้อผิดพลาดด้วยตนเอง
วันศุกร์, มีนาคม 07, 2551
เด็กปกติเรียนรู้ภาษาและการพูดได้อย่างไร
เด็กปกติจะมีพัฒนาการด้านภาษาและการพูดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งสามารถใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ เมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป
การที่เด็กเล็กคนหนึ่งจะพัฒนาภาษาและการพูดขึ้นมาได้นั้น จะต้องเกิดจากการที่เด็กมีการติดต่อกับบุคคลที่อยู่แวดล้อมเช่น แม่ พ่อ พี่เลี้ยงอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยในระยะแรก เด็กจะใช้การร้องไห้เพื่อบอกความต้องการของตนเอง เช่น ร้องไห้เมื่อหิวหรือไม่สบาย
ต่อมาเด็กจะเริ่มเล่นเสียงและเลียนเสียงต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ในช่วงนี้ถ้าเด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลที่อยู่รอบข้าง เช่น แม่มักจะอุ้มขึ้นมาเล่นและพูดคุยด้วย เมื่อได้ยินเสียงของเด็ก ก็จะเริ่มสร้างระบบของภาษาและการพูดของตนเอง โดยอาศัยแบบอย่างจากผู้ใหญ่ที่พูดคุยด้วย
เมื่อเด็กทดลองใช้ภาษาที่ตนเองสร้างขึ้นมา และได้รับแรงเสริมจากผู้ใหญ่ เด็กก็จะออกเสียงนั้นมากขึ้น จนกระทั่งสามารถเปล่งเสียงเรียกสิ่งของหรือคนที่อยู่รอบข้างเขา ได้อย่างถูกต้อง เช่น เมื่อเด็กเห็นแม่เดินมาเป็นจังหวะเดียวกับ ที่เด็กเปล่งเสียงคำว่า "ม่ะ" ออกมา ก็จะเข้ามาอุ้มชูและพูดเล่นด้วย
การที่เด็กได้รับแรงเสริมในลักษณะนี้นี่เอง จะทำให้เด็ก ค่อยๆ เรียนรู้เวลาที่เขาหิว เจ็บป่วยหรือต้องการการอุ้มชู ถ้าเขาเปิดปาก ทำเสียงเช่นนี้ บุคคลผู้นี้ก็จะเข้ามาช่วยเหลือเขา เมื่อทำบ่อยครั้งเข้า ในที่สุดเด็กจะสามารถเชื่อมโยงคำว่า "ม่ะ" "แม่" กับตัวคุณแม่ได้ กระบวนการการเรียนรู้คำศัพท์ของเด็กจะเกิดขึ้นในลักษณะนี้ และปริมาณของคำศัพท์ที่เด็กเรียนรู้และพูดได้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 คำ เมื่อเด็กอายุประมาณ 10-12 เดือน จนถึงสองพันกว่าคำ เมื่อเด็กอายุ 7 ปี
โดยในระยะแรก เด็กจะเริ่มพูดเป็นคำๆ ก่อนเมื่ออายุ 1-2 ปี และเริ่มพูดเป็นประโยคสั้นๆ ได้เมื่ออายุ 3 ปี พออายุ 4 ขึ้นไป เด็กก็จะสามารถใช้ประโยคเล่าเรื่องต่างๆ ที่เขาพบเห็นให้คุณพ่อคุณแม่ฟังได้ และสามารถใช้ภาษาได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ พูดคุยโต้ตอบกับคุณพ่อคุณแม่ ได้อย่างเหมาะสมเป็นเรื่องเป็นราวเมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป
ลองสังเกตดูนะคะว่าลูกของคุณมีพัฒนาการการพูด เป็นไปตามวัยหรือไม่ถ้าเป็นไปตามนี้ คุณแม่ก็โล่งอกหายห่วงได้ค่ะ แต่ก็มีไม่น้อยที่เด็กไม่สามารถมีพัฒนาการที่ดีอย่างที่ควรจะเป็นได้
ปัญหาเรื่องของเด็กพูดช้า เป็นปัญหาที่หนักอกหนักใจของคุณแม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนักหนาสาหัสเกินจะเยียวยาแก้ไขนะคะ คุณแม่ต้องใจเย็นๆ แล้งลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ
วันพุธ, กุมภาพันธ์ 27, 2551
วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 19, 2551
กิจกรรมส่งเสริมภาษา
ผลงานศิลปะที่น้องเลือกมาเล่า
น้องกำลังเล่าเรื่องจากภาพ
กิจกรรมเลือกเล่าเรื่องจากภาพที่ประทับใจ
-การเตรียมตัวในการทำกิจกรรม
1.จัดหากิจกรรม
2.จัดหาอุปกรณ์
3.สุ่มหาเด็กที่จะทำกิจกรรม
-การจัดเตรียมอุปกรณ์
1.ให้เด็กทำงานศิลปะ คือ เด็กมีงานศิปะที่ทำจากโรงเรียนที่เด็กชอบเลือกมา 1 ชิ้น
2.มีกระดาษและสีเทียน สีน้ำให้เด็ก
-ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1.ให้เด็กนำงานศิลปะที่ทำจากโรงเรียนโดยเลือกที่ชอบมา 1 ชิ้นงาน
2.จัดเตรียมกระดาษและสีเทียน สีน้ำให้เด็ก
3.ให้เด็กเลือกว่าจะทำงานศิลปะใหม่หรือจะเลือกงานศิลปะที่มีอยู่
4.เด็กเลือกงานศิลปะที่ตนเลือกมา
5.เด็กเล่าเรื่องจากภาพ
6.เด็กเล่าว่า เขาไปเที่ยวงานลอกกระทง เขาชอบพุที่งานมาก เขาเลยเลือกกิจกรรมหยดสี
เพราะงานเขาออกมาเป็นเหมือนรูปพุ ดอกไม้
สรุปผลที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม
เราได้รู้ว่าเด็กจะใช้ภาษาที่ตนมีประสบการณ์มาสื่อให้เราเข้าใจ ง่ายๆ คือ เด็กจะนำประสบการณ์เดิมมาผสมผสานกับประสบการณ์ใหม่แล้วถ่ายทอดหรือสื่อด้วยภาษาที่เด็กมีให้คนอื่นเข้าใจ เหมือนภาพที่ใช้ เด็กสามารถบรรยายได้แม้จะไม่ใช่ความเป็นจริง เป็นจินตนาการของเด็กเองก็ตามและเด็กสามารถสื่อสารหรือพูดบรรยายให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายอย่างที่เด็กเข้าใจและจินตนาการ
ส่งงาน วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551
วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 16, 2551
ผลการส่งเสริมภาษา
ครูที่จะสอนภาษาให้กับเด็กคนแรกสุดคือพ่อกับแม่ ดังนั้นครอบครัวจึงมีอิทธิพลกับการใช้ภาษาที่เด็กสื่อออกมา
ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตาม เช่น การพูดคุย การเล่าเรื่อง การร้องเพลง การเล่าประสบการณ์ การอ่าน การเขียน การฟัง ฯลฯ
ทุกอย่างเป็นผลมาจากการใช้ภาษาของครอบครัวเด็กด้วยทั้งนั้น ไม่ใช่เฉพาะครัวครอบ สิ่งแวดล้อม เพื่อน คุณครู ก็ด้วยเช่นกัน
การส่งเสริมของพ่อแม่ในด้านของภาษาจะช่วยให้เด็กได้พัฒนาด้านสติปัญญา เพราะการสื่อภาษาของเด็กนั้นเป็นการสะท้อนว่า
เด็กรู้สึกอะไร เข้าใจอะไร อยากรู้หรือสงสัยอะไร ซึ่งสามารถวัดหรือประเมินความฉลาดหรือความเก่งของเด็กได้
ดังนั้นการสนับสนุนและส่งเสริมด้านภาษาให้กับเด็กนั้นต้องร่วมมือกันทุกฝ่ายไม่ใช่แค่หนาที่ของคุณครูเท่านั้น
วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 11, 2551
วันพฤหัสบดี, มกราคม 24, 2551
วันศุกร์, ธันวาคม 21, 2550
ภาษาธรรมชาติ
ภาษธรรมชาติ whole language
คือ การสอนแบบบูรณาการองค์รวม การสอนในสิ่งที่เด็กสนใจและมัความหมายสำหรับเด็ก ใกล้ตัวเด็ก และอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยให้เด็กได้ฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ไปพร้อมๆกัน เพราะเด็กจะเรียนรู้ได้ดีถ้าเขามีประสบการณ์ในสิ่งนั้นโดยครูจะอ่านให้ฟังทั้งคำ ทั้งประโยค ทั้งเล่ม เพื่อให้เด็กมองเห็นภาพรวมรับรู้ข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ
คือ การสอนแบบบูรณาการองค์รวม การสอนในสิ่งที่เด็กสนใจและมัความหมายสำหรับเด็ก ใกล้ตัวเด็ก และอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยให้เด็กได้ฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ไปพร้อมๆกัน เพราะเด็กจะเรียนรู้ได้ดีถ้าเขามีประสบการณ์ในสิ่งนั้นโดยครูจะอ่านให้ฟังทั้งคำ ทั้งประโยค ทั้งเล่ม เพื่อให้เด็กมองเห็นภาพรวมรับรู้ข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
โลกสีชมพู
สวัสดีค่ะ ทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม
.....กอล์ฟ ดีใจที่มีวันดีๆอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณโชคชะตาที่ช่วยทำให้ผ่านพ้นสิ่งเลวร้ายไปได้ ขอบคุณกำลังใจจาก..เพื่อนที่มีให้เสมอมา ขอบคุณพ่อและแม่ที่ทำให้กอล์ฟเกิดมา ขอบคุณคนที่ทุกคนรู้ว่าใครที่อยู่เคียงข้างกันและรักกอล์ฟ จริงใจกับกอล์ฟ..ขอบคุณโลกเบี้ยวๆลูกนี้ที่ทำให้ชีวิตมีสีสันและสดใส
.....กอล์ฟ ดีใจที่มีวันดีๆอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณโชคชะตาที่ช่วยทำให้ผ่านพ้นสิ่งเลวร้ายไปได้ ขอบคุณกำลังใจจาก..เพื่อนที่มีให้เสมอมา ขอบคุณพ่อและแม่ที่ทำให้กอล์ฟเกิดมา ขอบคุณคนที่ทุกคนรู้ว่าใครที่อยู่เคียงข้างกันและรักกอล์ฟ จริงใจกับกอล์ฟ..ขอบคุณโลกเบี้ยวๆลูกนี้ที่ทำให้ชีวิตมีสีสันและสดใส
เรา-นาย มิตรภาพระหว่างเพื่อน
หากเธอย้อนกลับมาที่นี่เธอจะเห็นความทรงจำดีดีที่มีให้ห้องเรียนโต๊ะ เก้าอี้ ที่เรานั่งไงจำได้ไหมที่เก่าเราเมาท์กันกับคุณครูสุดเขี้ยวแสนโหดเราไม่โกรธแต่เฮี้ยวกลับมันน่าขันเฮฮาตามประสาเพื่อนกันผูกพันเพื่อนกันไม่เสื่อมคลายวันเวลาผ่านไปไม่หวนกลับยังเคยนับวันเวลาที่ห่างหายแม้ไม่อาจย้อนเวลามาดั่งใจแต่จำไว้เราเพื่อนกันไม่สั่นคลอน